ตกลงว่า องค์เทพกับผีถือว่าเหมือนกันใช่มั้ย
ตั้งกระทู้ใหม่
บางคนบอกว่าคนละอย่าง องค์เทพไม่มีวันเป็นผี แต่บางคนบอกว่าชนิดเดียวกัน ไปกันใหญ่แล้ว จะเชื่ออันไหน
11 ความคิดเห็น
ไม่ต้องเชื่ออันไหนก็จบ จะองค์เทพจะผี จะมีไม่มีก็ไม่เห็นประโยชน์อะไ่ร
เทพไม่เกี่ยวกับว่ามีร่างกายหรือไม่มี เทพคือ "การมีพลังเหนือมนุษย์" เสียมากกว่า มีปัญญาเหนือกว่า มีอำนาจเหนือกว่า เคยอ่านเหมือนเขาว่าเทพในไบเบิลจะมีพลังราวๆ แค่มนุษย์จ้องหรืออยู่ใกล้ๆ ก็ถูกเผากลายเป็นไฟได้ รูปร่างของเทพตามไบเบิล (หรือเอเซเคียล) ก็ราวๆ วงแหวนหรือปีกที่มีตา มีความน่ากลัวเพื่อไล่ปีศาจ เทพเลยบอกมนุษย์บ่อยๆ ว่า "อย่ากลัวฉัน" (หลายๆ ที่บอกว่าเทพมาจากบนฟ้า แต่ถ้ามองอีกแง่ สูงขึ้นไปบนฟ้าก็คือนอกโลก เทพอาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้เนอะคะ โกหกมนุษย์ว่ามาจากบนฟ้าเพราะก็ไม่ได้โกหกอ่ะ มนุษย์สมัยนั้นแค่ไม่รู้เรื่องอวกาศและคิดไปเองว่าเทพอยู่บนเมฆ)
ผีบางทีจะหมายถึงตัวตนที่ไม่มีกายเนื้อ พลังอำนาจก็ไม่ถึงว่าจะเรียกว่าเป็นเทพได้ ถ้าเป็นผีที่มีกายเนื้อคงเรียกว่าเป็นปีศาจมากกว่าหรือเปล่า หรือไม่ก็ประเภทผลุบๆ โผล่ๆ สบายใจตอนไหนก็ไม่มีกายเนื้อ อยากทำร้ายคนก็โผล่กายเนื้อมา ขัดหลักวิทยาศาสตร์มากที่กลุ่มควันหรือพลังงานจะสร้างกายเนื้อขึ้นมาได้แวบๆ แล้วก็หายไปแล้วกลับมาอีกตามใจนึก ระเหิดกายเนื้อได้เหรอ? ทำได้ไวกว่ากระบวนการระเหิดของน้ำอีกค่ะ สุดยอด แต่คิดว่าถ้าเป็นประเภทมีกายเนื้อจะกลายเป็นซอมบี้เสียมากกว่า
อยู่ที่นิยายจะสื่อแบบไหน โดยส่วนตัวชอบเขียนไม่เชื่อทั้งว่ามีทั้งสองอย่าง แต่ถ้าเขียนเกี่ยวกับผีมักไม่บอกว่าเป็นอะไรมันน่าสนใจกว่า
ความเชื่อ
เทพเหนือกว่าผีแบบเทียบไม่ติด
ถามพันคน ได้คำตอบเดียวกันเกือบพันคน
เทพ ไม่เหมือน ผี ผีอยู่ต่ำกว่ามาก
หากจะจัดอยู่ในหมวดเดียวกันว่าเป็นความเชื่อเหมือนกัน ทำได้.... แต่จะบอกว่าเหมือนกันไม่ได้
เหมือนบอกว่ารถเก๋งธรรมดา กับรถสปอร์ต เหมือนกันนั้นแหละ ยังไงก็ไม่เหมือน
สำหรับชาวคริสต์นอกจากพระเจ้าแล้วที่เหลือนับเป็นผีหมดครับ เป็นแค่ปีศาจที่มาหลอกลวงมนุษย์เท่านั้น
คิดดูดีดีแล้วมันเท่ากับว่าทุกศาสนายอมรับการมีอยู่ของเรื่องเหนือธรรมชาติ
แค่กำหนดว่าสิ่งเหนือธรรมชาติของตนเองเท่านั้นที่มีอยู่จริงและมีอำนาจมากกว่าของคนอื่นๆ
นายลืม Angel (ทูตสวรรค์) อะ 55
เป็นแค่คนที่มีอำนาจน้อยกว่าพระเจ้าเท่านั้น ท่าทางจะลืมลูซิเฟอร์ไปแล้วว่างั้น
เป็นการอธิบายได้อย่างดีว่ามีปีศาจที่มีอำนาจอยู่จริง แต่พระเจ้าเข้มแข้งกว่า
จนชวนสงสัยว่าประชาชนคนธรรมดาจะไปเข้าข้างลูซิเฟอร์ที่เป็นพวกขี้แพ้ไปทำไม?
ถ้าคนธรรมดาเห้นแก่ตัวจริงๆเข้าข้างพระเจ้าที่เข้มแข้งกว่าก็สมเหตุสมผลแล้ว
Lucifer เป็นอดีตพนักงานทูตสวรรค์ทำผิกกฎของบริษัท แล้วไปหางานใหม่เป็นฟรีแลนช์หรือตั้งบริษัทแยกใหม่ โดยรับลูกน้องครึ่งนึงเป็นผีพนักงานจบใหม่
ใช่รึเปล่า
ตำราชาวยิวเล่นมุกเมหือนกันว่าซาตานนนี่คล้ายๆทนายของบริษัทที่มาตรวจสอบคนที่ศรัทธาอีกทีหนึ่ง
ผมเอามุกชาวฮินดูไปแซวชาวคริสต์ว่า
หากให้ชาวฮินดุนับถือพระเยซุที่แค่ทหารโรมันกองหนึ่งยังปราบไม่ได้นั้นคงจะยากหน่อยเมื่อตำนานของชาวฮินดู
แผลงศรทีเดียวทหารนับล้านก็ตายแล้ว
ใจคอจะให้เชื่อว่าคือบุตรของพระเจ้าโดยที่แค่ทหารของเมืองเดียวยังฆ่าไม่ได้งั้นหรือ?
ง่ายเกินไปมั้ง?
ดังนั้นวิธีแก้คือเราต้องบอกว่า
ตำนานของศาสนาอื่นคือของปลอม
มีแต่ตำนานของศาสนาเราเท่านั้นที่คือของจริง
เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นมันจะเป็นการเปรียบเปรยว่าพระเจ้าของใครเก่งกว่ากันไม่จบสิ้น
เพราะมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวอย่างเราจะเคารพแต่พระเจ้าที่เก่งที่สุดเท่านั้น
คล้ายกับพระเยซูอยากตายด้วยนะครับ เลยไม่ต่อต้านกับจับกุม
บอกไว้อย่างชัดเจนว่าอาณาจักรของข้าไม่อยู่บนโลกนี้ แต่สัญยาว่าจะกลับมาฆ่าคนบาปทุกคนในวันสิ้นโลก
อิสลามก็เห้นด้วยเรื่องนี้ ฮา
แค่ต่างกันตรงที่ไม่ได้มองว่าพระเยซูคือบุตตรพระเจ้า
พระเจ้าหนึ่งเดียวจะแยกร่างลงมาบนโลกได้อย่างไรกัน?
ตอนค้นเรื่องท้าวมเหสักข์พบว่าบางพื้นที่หรือคนสมัยก่อนก็เรียกว่าผีมเหสักข์ค่ะ
อนึ่งท้าวมเหสักข์เป็นเทพารักษ์ผู้ปกครองดูแลพื้นที่ ที่รู้จักกันดีคือ ท้าวมเหสักข์ผู้เฝ้าศาลหลักเมืองกรุงเทพฯค่ะ
มันก็แล้วการกำหนดคำนิยาม ยิ่งมีกรอบบรรทัดฐานแค่คำว่า " เหมือน " ซับเซตยิ่งกว้างมากจนตอบไม่ถูกล่ะครับ
ผมขอตอบคำถามด้วยคำถามล่ะกัน....คุณเจ้าของกระทู้คิดว่า คนผิวดำ กับคนผิวขาวเหมือนกันใช่มั้ย?
แล้วแต่ความเชื่อเลยคับ อันนี้ไม่มีตัววัดจริงๆ ขาดของไทยยังแบ่งเป็นภูติ ผี ปีศาจ เทวดา อะไรอีกบลาๆ เลย เพราะงั้นแล้วแต่คน หรือแล้วแต่ว่าจะนิยามแต่ละอันว่าไงคับ
แต่ชาวบ้านทั่วๆ ไป ไม่ได้มีความรู้หรือไม่ได้อยากจะจำแนกให้ละเอียดมาก เค้าก็เรียกผีหมดคับ
คนละอย่างกันครับ เทพ คือ เทวดาในสวรรค์ชั้นแรก ชั้นจาตุมหาราชิกาขึ้นไป เทพของจีนที่นับถือตามศาลเจ้า นั่นคือเทพทั้งหมด แต่มีระดับต่ำ-กลาง-สูง
ศาลพระภูมิ = ผี
ศาลเจ้าที่ = ผี
ศาลพระพรหม = เทพชั้นสูง มีเล่มนึงบอกว่า นี่คือ เทพเจ้าสูงสุด 1ใน3ของศาสนาฮินดูนะ ไทยเราเอาท่านมาผนวกรวมไว้ในลำดับต่ำพระพุทธเจ้าซะนี่
ศาลพระพิฆเณศ = เทพชั้นสูง
เกี่ยวกับเรื่องนี้......
เทพกับผีเป็นคนละอย่างกันนะครับ เทพหรือเทพเจ้านั้น เป็นบุคคลที่อยู่บนสวรรค์ มีอำนาจที่สูงส่ง มีความพิเศษเหนือกว่าคนธรรมดา และมีการกำเนิดที่เหนือธรรมดาอย่างมาก ตามแต่ความเชื่อของประเทศนั้นๆ
ส่วนผีนั้น คือวิญญาณที่หลุดออกจากร่างหลังเสียชีวิตไปแล้ว โดยธรรมดาสามัญแล้ว เราไม่สามารถเห็นผีได้จริง เพราะตามความเชื่อแล้ว ผีกับคนอยู่กันคนละโลก แต่ที่เรารู้สึกว่ามีผีนั้น เพราะความหวาดกลัวบวกกับความเชื่อเรื่องผีที่ได้ยินมาด้วยนะครับ
ในมุมผมที่ศึกษามาบ้าง ขอตอบในมุมความรู้อันน้อยนิดของตัวเองว่า ปรกติแล้วสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะมีสิ่งที่เราเรียกว่าจิตอยู่ เมื่อกายเนื้อตายไปก็จะกลายเป็นกายจิต
ซึ่งจิตจะถูกเรียกแตกต่างกันไปตามแต่พื้นที่ และเทพเองก็จะมีจิตของตัวเองเหมือนกัน โดยปรกติแล้วกายจิตของเทพมักจะไม่ต้องการกายเนื้อ คงอยู่ได้ด้วยพลังงานของจิตนั้น ๆ ตามความเชื่อของพุทธจะเรียกสิ่งนี้ว่าผลบุญ จนกว่าจะหมดบุญหรือหมดพลังจิต จนกลับมาเป็นมนุษย์เพื่อพยายามบําเพ็ญเพียรชดใช้กรรมสะสมบุญอีกครั้ง
สรุปแล้ว ผีก็คือจิตที่อ่อนแอไม่มีผลบุญเพียงพอที่รอวันสลายหายไปและจะยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างจนกระทั่งหมดเวลาของอายุขัยจิตไป ยกตัวอย่างเช่นผีในโรงแรม ผีในของโบราณ การไหว้ผีนับถือผีก็จะยิ่งทำให้เขามีพลังงานมากขึ้น อยู่ต่อไปได้นานขึ้นด้วยผลบุญที่ผู้คนยกให้
ในขณะที่ เทพก็คือจิตที่แข็งแกร่งเต็มไปด้วยผลบุญที่กระทำกรรมมาอยู่เสวยสุขไปจนกระทั่งหมดบุญไปตามอายุขัยบุญเพื่อวนกลับมาจุติกำเนิดสะสมบุญใหม่อีกครั้ง หากทำกรรมดีก็ได้ขึ้นไปเสวยสุขอีกครั้ง หากทำกรรมชั่วเยอะก็ต้องไปชดใช้ในนรกภูมิ หากยึดติดก็ไม่มีวันได้ไปไหนแล้วกลายเป็นผีรอวันหมดอายุขัยจิตแล้วหายไปตลอดกาล /เพิ่มเติม กรรมดีกรรมชั่ว ไม่สามารถหักล้างกันได้ ทำกรรมดีได้เสวยสุขในกรรมดีนั้น ๆ ทำกรรมชั่ว ต้องชดใช้ในกรรมชั่วนั้น ๆ
---
แต่ถ้าให้พูดในมุมของนิยายเทพเจ้า เทพเจ้าคือมนุษย์ต่างดาวครับ 555555555 มนุษย์ต่างดาวที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่าเราชาวโลก เทคโนโลยีที่มนุษย์หาคำมาอธิบายไม่ได้
ถ้าท่านไปถามพวกพุทธที่เน้นคัมภีร์จะโดนบอกว่าวิญญาณไม่มีอยู่ตริงครับ
เราตายภพนี้กำเนิดภพใหม่เลยโดยอัตโนมัติ
ไม่มีขั้นตอนระหว่างทาง
ไม่มีช่วงเวลารอคอยแบบวิญญาณระวห่างภพ
ผมสังเกตมาตลอดว่าศาสนาที่จะอยู่รอดได้ ต้องมีความเอทิสม์ระดับหนึ่งที่พยายามไม่ให้คนเห็นผีจริงๆในชีวิตประจำวันแต่ให้เชื่อพระเจ้าเท่านั้น
แปลกดีครับ แสดงว่า พอตายแล้ว วิญญาณก็หายไปเลย ไม่มีผีใดๆ
"ไม่มีอยู่จริง"
ผมก็ถามบอกว่า
แล้วจะหาจุดเชื่อมต่อระวห่างเราตอนนี้กับชาติภพหน้าอย่างไร?
ก็บอกว่าต้องถามว่า
ตัวตนเรามีอยุ่จริงหรือไม่?
ผมก็คิดว่าน่าสนใจหากพยายามมองกันอย่างนี้
คือการทำให้คนเป็นเอทิสม์โดยไม่เป็นเอทิสม์
ให้ยอมรับการมีอยู่จริงของชาติหน้า แต่ไม่ค่อยให้มีประโยชน์เท่าไรต่อชาตินี้แต่อย่างใด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?